การเปลี่ยนผ่านการฝึกอบรมโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม
การเปลี่ยนผ่านการฝึกอบรมโดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม
(Transforming
Training through Technology and Innovation) ของตำรวจสิงคโปร์
นำเสนอโดย Mr SOH Kee Hean ผู้อำนวยการอาวุโส สถาบันฝึกอบรมมหาดไทย (Home Team Academy - HTA) และทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนสืบสวนสอบสวนคดีอาญา
ใน HTA สถาบันดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของ Home Team Academy ซึ่งเป็นสถาบันฝึกอบรมให้แก่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในสิงคโปร์
ประเทศที่ขึ้นชื่อว่ามีความปลอดภัยมากที่สุดในโลก
ความท้าทายของโลกในปัจจุบัน
มีปัญหาใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา ประเด็นความมั่นคงและอาชญากรรมแบบใหม่
ขบวนการเคลื่อนไหวของคนกลุ่มต่างๆ ที่เติบโตมากขึ้น ประชากรสูงวัย
ในขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมีอย่างจำกัด
เทคโนโลยีในโลกสมัยใหม่เป็นทั้งอุปสรรคและโอกาส
เทคโนโลยีอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือกระทำผิดของอาชญากร
แต่เทคโนโลยีก็อาจใช้เป็นเครื่องมือในการต่อสู้กับอาชญากรรมรวมทั้งใช้พัฒนาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เช่นกัน
ตำรวจสิงคโปร์ตระหนักว่าการศึกษาและพัฒนาเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง
เปลี่ยนจาก
“ผู้สอนเป็นหลัก” เป็น “ผู้เรียนเป็นหลัก”
เปลี่ยนจาก
“การบรรยาย” เป็น “การดึงความสามารถออกมาจากผู้เรียน”
เปลี่ยนจาก “การเรียนในห้องเรียน”
เป็น “การเรียนทุกที่ทุกเวลา”
แนวทางการเปลี่ยนผ่านการฝึกอบรมของตำรวจสิงคโปร์
น่าสนใจหลายประการที่ตำรวจไทยน่านำมาปรับใช้หรือสร้างระบบเสียใหม่ครับ
·
การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานในพื้นที่
(frontline
officer) เจ้าหน้าที่ตำรวจระดับปฏิบัติการ
มักต้องอยู่ปฏิบัติหน้าที่ประจำในพื้นที่ต่างๆ เป็นการยากที่จะเข้ารับการฝึกอบรม (อันนี้น่าจะเหมือนตำรวจไทย
พอมีคำสั่งให้ส่ง จนท.ตำรวจ ไปอบรม จึงส่งคนที่ไม่ค่อยชอบทำงานในพื้นที่ไป
หรือคนที่อยากไป ก็ไม่ให้ไป บอกว่าถ้าไปแล้วใครจะทำงาน !!!
) ตำรวจสิงคโปร์จึงมีแนวคิดว่าแทนที่จะนำตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาฝึกอบรมในศูนย์ฝึกอบรม
แต่สร้างพื้นที่สำหรับการฝึกอบรมในพื้นที่ปฏิบัติงานดังกล่าว
โดยไม่ต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องออกจากพื้นที่มารับการฝึกอบรมที่ศูนย์ฝึกอบรม
เช่น ระบบการฝึกอบรมก่อนหรือขณะเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ (Pre-Shift/In-Shift Training) โดยกำหนดระยะเวลาก่อนเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่ซึ่งจะต้องฝึกอบรม
เป็นจำนวนกี่ชั่วโมง ในรอบ 1 สัปดาห์ หรือระหว่างเข้าเวรปฏิบัติหน้าที่เวลากลางวัน/กลางคืน
จะต้องมีชั่วโมงการฝึกในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง หรือการเรียนรู้ด้วยตนเอง
ไม่น้อยกว่ากี่ชั่วโมงในสัปดาห์ เป็นต้น
·
ห้องเรียนเคลื่อนที่ (Mobile Classroom) เป็นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการฝึกอบรมตำรวจ
โดยนำการฝึกอบรมลงไปให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานในพื้นที่
โดยภายในห้องเรียนเคลื่อนที่จะมีเครื่องฝึกสถานการณ์สมมติ หรือ VR ที่ช่วยฝึกทักษะของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
· ประสบการณ์การปฏิบัติซึ่งนำไปสู่การเรียนรู้ และการเรียนรู้ของเจ้าหน้าที่จากการปฏิบัติจริง การพัฒนาเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ควรจำกัดเฉพาะวิธีการฝึกอบรมเท่านั้น
แต่การเรียนรู้จากการปฏิบัติหน้าที่จริงจะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าใจและสามารถนำไปปฏิบัติงานได้จริง
และสามารถลดข้อผิดพลาดได้ ตำรวจสิงคโปร์ จึงใช้วิธีการนำภาพเคลื่อนไหว จากกล้องติดตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ (body camera) มาวิเคราะห์และทบทวน (after action reviews) เป็นการพัฒนารูปแบบหนึ่ง
· E-learning
หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสิงคโปร์ มีระบบการบริหารจัดการการเรียนรู้
(Home Team
Learning Management System) ซึ่งดูแลระบบการฝึกอบรม และมีแพกเกจการเรียนรู้ทางอิเลกทรอนิกส์
ซึ่งเป็นโปรแกรมทางคอมพิวเตอร์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถพัฒนาตนเองได้โดยไม่ต้องมาเข้าห้องเรียน
แต่มากกว่านั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถพัฒนาตนเองได้ทุกที่ทุกเวลา ตลอด 24
ชั่วโมง ด้วยโปรแกรมการเรียนรู้ผ่านโทรศัพท์มือถือ
(Mobile Learning Package)
ซึ่งข้อดีของวิธีการเรียนแบบนี้
นอกจากง่ายต่อการเข้าถึงแล้ว ยังตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย
ในด้านเนื้อหาการฝึกอบรม รูปแบบ ภาพ ภาพเคลื่อนไหว ทำให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพ
และยังสามารถใช้โปรแกรมดังกล่าวร่วมกันได้ ในหน่วยงานต่างๆ
· Smart Campus / Smart Classroom สถานที่ศึกษาอบรมและห้องเรียน
ต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย
ห้องเรียนยุคใหม่ไม่เพียงต้องระบบอินเทอร์เนตที่ครอบคลุมและรวดเร็วแล้ว
ยังต้องมีระบบเทคโนโลยีที่สนับสนุนให้นักเรียน กับอาจารย์ ได้ติดต่อสื่อสารกันได้
นักเรียนสามารถทำงานหรืออภิปรายแลกเปลี่ยนข้อมูล ระหว่างกันได้ผ่านระบบเทคโนโลยี
มีระบบสนับสนุนครูฝึก การบันทึกการสอนเพื่อให้นักเรียนสามารถนำมาทบทวนได้ตลอดเวลา
· เทคโนโลยีการฝึกในสถานการณ์จำลอง
(Simulation Technology) คนทั่วไปจะเคยได้ยินการฝึกโดยเครื่องสถานการณ์จำลองสำหรับนักบิน
แต่เครื่องดังกล่าวก็สามารถนำมาใช้ฝึกเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เช่นกัน เช่น สถาบันพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของตำรวจเกาหลี
ได้สร้างเครื่องฝึกการขับรถยนต์จำลอง
สำหรับการฝึกการขับขี่รถยนต์แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งการฝึกโดยมีเหตุการณ์อาชญากรรมเสมือนจริง
ด้วยเทคโนโลยี VR (Virtual
Reality Crime Scene Trainer) ซึ่งใช้เทคโนโลยี 3 มิติ (3-D Technology) จำลองเหตุอาชญากรรมและฝึกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตัดสินใจในการปฏิบัติ
การใช้กำลัง อาวุธ ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ หรือใช้ฝึกการบริหารเหตุการณ์วิกฤติที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำงานร่วมกัน
การแก้ไขปัญหาของผู้บังคับบัญชาการหรือผู้บริหารเหตุการณ์ ซึ่งจะมีศูนย์ฝึกด้านการควบคุมสั่งการ
ที่สามารถจำลองสถานการณ์ต่างๆ
และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันฝึกในสถานการณ์สมมติดังกล่าว เช่น ภัยธรรมชาติ
จับตัวประกัน การชุมนุมประท้วง หรือเหตุวิกฤติอื่นๆ
· การพัฒนาการฝึกอบรมในยุคต่อไปของสิงคโปร์
พัฒนาจาก E Learning เป็นการฝึกเป็นเกมส์ การใช้ปัญญาประดิษฐ์
(AI) สนับสนุนการฝึกตำรวจ และทำให้สามารถฝึกได้ตลอดเวลา 24
ชั่ว 7 วัน
· ความท้าทายของการฝึกอบรม
คือ
1. ความคิดและทัศนคติของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จำเป็นต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลง
การฝึกครูฝึกให้มีแนวคิด (mindset) ใหม่ รวมทั้งความสามารถในการฝึกอบรมตามแนวทางใหม่
หรือการใช้เทคโนโลยีดังกล่าว
2. ความสอดคล้องกันระหว่างความต้องการของการปฏิบัติหน้าที่
และการฝึกอบรม
3. การเปลี่ยนแปลงของปัญหาอาชญากรรมและที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานตำรวจที่เกิดขึ้นตลอดเวลา
สรุปได้จากบทเรียนด้านการเปลี่ยนแปลงการฝึกอบรมของตำรวจสิงคโปร์
คือ
การบริหารการฝึกอบรม
การจัดการความรู้
สมรรถนะการปฏิบัติหน้าที่
ความเป็นมืออาชีพ
ความเชื่อมั่นและความพึงพอใจในการทำงาน
คือสิ่งที่ต้องไปด้วยกัน
และเชื่อมโยงกัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น